ฟิล์มฟรี ส่งผลเสียอย่างไร? ทำไมต้องติดฟิล์มที่ดี?
คุ้มไหม ? ถ้าออกรถใหม่แล้วติดฟิล์มแถม
วิกฤตโควิด-19 ทำให้ทุกคนไม่มากก็น้อยได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันออกไป เช่น หน้าที่การทำงานที่มีการปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานที่บ้าน การซื้อสินค้าที่ใช้การสั่งสินค้าทางออนไลน์ รวมถึงการปรับรูปแบบการใช้จ่ายที่ต้องรอบครอบมากขึ้น ด้วยการใช้จ่ายที่มี ความคุ้มค่า แต่ไม่ใช่การหมายถึงการประหยัดการใช้จ่าย
คำว่า คุ้ม ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมายว่า พอสมควร พอเท่ากัน หรือ มากพอสมควรกัน ดังนั้น ความคุ้มค่า จึงหมายถึง การได้รับผลประโยชน์จากการแลกเปลี่ยน เช่น ความคุ้มค่าจากการซื้อสินค้า ซึ่งใกล้เคียงกับการ ลงทุน ที่ต้องมีการลงทรัพย์สินเป็นทุนเพื่อได้รับผลตอบแทนต่างๆ
เปรียบเทียบกับ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือ เมื่อซื้อรถใหม่ก็จะมีฟิล์มรถยนต์ติดแถมมาให้จากโชว์รูม ซึ่งฟิล์มกรองแสงที่แถมจากโชว์รูม มักจะเป็นฟิล์มกรองแสงราคาประหยัดที่คุณสมบัติพื้นฐาน แต่ แสงแดด ของประเทศไทยนั้น ร้อน แรง และมีโทษ เกินกว่าฟิล์มกรองแสงรถยนต์ธรรมดาจะสามารถป้องกันได้ บทความนี้ จะพาคุณไปสัมผัสกับ “ความไม่คุ้มค่า” ของการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ราคาประหยัดที่แถมมาจากโชว์รูม ผ่านตัวอย่างปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งจะนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่อาจมองข้าม
7 ความไม่คุ้มค่ากับฟิล์มแถม !!
1. ฟิล์มแถมมักเป็นฟิล์มราคาถูก : คุณภาพของสินค้ามาพร้อมกับราคาที่สูงเช่นกัน ดังนั้นฟิล์มที่แถมมากับรถยนต์อาจจะเป็นฟิล์มที่สามารถใช้ได้ชั่วคราว หรือเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่แสงแดดอ่อน ๆ ซึ่ง ไม่ใช่สำหรับ ประเทศไทย !!
2. ไม่ได้เลือกฟิล์มเอง : ความเท่ห์ หรือ ความสวยงามของรถยนต์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟิล์มกรองแสงก็เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง เปรียบเสมียนฟิล์มกรองแสงเป็นเครื่องแต่งกายอย่างหนึ่งของรถยนต์ ถ้าเราใส่สวมใส่เสื้อผ้าที่เราไม่ได้เลือกเอง ก็ส่งผลต่อความมั่นใจได้เช่นกัน
3. ฟิล์มกรองแสงคุณภาพต่ำ : ฟิล์มกรองแสงรถที่แถมมากับรถยนต์ มักจะเป็นฟิล์มกรองแสงธรรมดาที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนต่ำ เสื่อมสภาพเร็ว และอาจรบกวนสัญญาณต่าง ๆ ภายในรถ เช่น สัญญาณหมู่บ้าน สัญญาณ Easy pass รวมถึงสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือด้วย
4. ไม่ได้เลือกศูนย์บริการติดตั้งด้วยตัวเอง : การติดตั้งฟิล์มกรองแสงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง ซึ่งมักพบเห็นปัญหาต่าง ๆ เช่น ฟองอากาศ ฟิล์มลอก ฟิล์มมีรอยขีดขวน หรือ ฟิล์มมีรอยยับ เป็นต้น
5. ฟิล์มไม่คงทน : เพราะฟิล์มกรองแสงที่แถมมากับรถยนต์เป็นฟิล์มธรรมดาที่คุณภาพสำหรับใช้ได้ชั่วคราว หรือไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมบ้านเรา อาจจะต้องเสียเวลากลับติดใหม่ และก็ต้องเสียเงินเพิ่ม
6. ผลกระทบกับเส้นไล่ฝ้า : การทำงานของเส้นไล่ฝ้าจะเป็นการปล่อยความร้อนที่สะสมออกมาเพื่อลดฝ้า และถ้าหากฟิล์มกรองแสงที่แถมมากับรถยนต์คุณภาพต่ำ ไม่สามารถทนทานต่อความร้อนได้ก็จะเสียหาย และเมื่อลอกออกด้วยช่างที่ขาดประสบการณ์เส้นไล่ฝ้าก็อาจจะเสียหาย และไม่สามารถทำงานได้
7. อันตรายต่อสุขภาพ : เนื่องจากแสงแดดบ้านเราแรงมาก หากฟิล์มกรองแสงรถยนต์ธรรมดาไม่สามารถช่วยในการป้องกันรังสี UV ได้ หรือ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์บางชนิดอาจมีส่วนผสมสารบางอย่างเมื่อโดนความร้อนก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน
สรุป การเลือกติด ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เองแทนการติดฟิล์มกรองแสงที่แถมมากับรถยนต์ ก็ถือเป็นการ ลงทุน ได้เช่นกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ จากแสงแดด เช่น ความร้อน ผิวคล้ำ รวมถึง มะเร็งผิวหนัง และถ้าหาเลือกฟิล์มกรองแสงรถที่สามารถลดความร้อนได้มากจะช่วยประหยัดน้ำมัน และยื้ออายุเครื่องปรับอากาศได้เช่นกัน ดังนั้น การติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ดี จึงต้องคุ้มค่า กับค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย ตามคำที่ว่า “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”
และที่สำคัญควรเลือกติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ต้องเลือกศูนย์ติดฟิล์มกรองแสงที่เชี่ยวชาญ มีผลงานการติดฟิล์มกรองแสงด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 37 ปี พร้อมทีมช่างผู้ชำนาญงาน ได้ที่ GLASSTECH