หน้าแรก ข่าวสาร/บทความ ADAS ดีแค่ไหน ถ้าไม่ปรับเทียบก็เป็นศูนย์ ADAS ดีแค่ไหน ถ้าไม่ปรับเทียบก็เป็นศูนย์ 30 September 2024 Share Facebook Twitter Email LINE ADAS ดีแค่ไหน ถ้าไม่ปรับเทียบก็เป็นศูนย์ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในรถยนต์ยุคใหม่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าประสิทธิภาพของระบบ ADAS นั้นขึ้นอยู่กับการปรับเทียบอย่างสม่ำเสมอ หากระบบ ADAS ไม่ได้รับการปรับเทียบให้ถูกต้อง ก็อาจส่งผลเสียต่อความปลอดภัยในการขับขี่ได้ ซึ่ง ระบบ ADAS หรือ Advanced Driver-Assistance Systems หมายถึง ระบบที่ช่วยผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งการแจ้งเตือน ควบคุม รวมไปถึงการขับขี่ตามความต้องการของผู้ขับขี่ด้วยการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวรถจากเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น กล้อง เรดาร์ และไรด้า และประมวลผลด้วย ระบบ AI ( ปัญญาประดิษฐ์ ) ( อ่านเพิ่มเติม คลิก !! ) ทำให้รถยนต์สามารถแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ออกนอกเลน การเบรกรถยนต์อัตโนมัติ หรือ แม้กระทั่งการขับขี่อัตโนมัติ ระบบ ADAS ก็มีส่วนในการทำงานเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ระบบ ADAS ยังเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ในยุโรป เนื่องจากกฎระเบียบในด้านความปลอดภัยของ การประเมินรถยนต์ใหม่ ( NCAP ) ของสหภาพยุโรป ที่มีการกำหนดให้ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ เป็นข้อบังคับให้รถยนต์ใหม่ทุกคันตั้งแต่ปี 2567 จำเป็นต้องมี ซึ่งหมายความว่า รถยนต์ใหม่ทุกคันต่อจากปัจจุบันนี้ในยุโรป จะติดตั้งกล้องหน้ารถ และมีระบบ ADAS เป็นระบบพื้นฐานสำหรับรถยนต์ ( ระบบ ADAS ยังมีผลต่อระบบอื่น ๆ อ่านเพิ่มเติม คลิก !! ) เมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องปรับเทียบระบบ ADAS ( Re-calibrate ADAS ) ระบบ ADAS เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับเครื่องยนต์ของรถยนต์ เพื่อให้สร้างทำงานได้อย่างปกติ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นต้องปรับเทียบระบบ ADAS ต่อเมื่อมีสาเหตุดังต่อไปนี้ 1. หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยหรือรุนแรง การชนอาจทำให้เซ็นเซอร์และกล้องของระบบ ADAS เกิดความเสียหายหรือเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิมได้ 2. หลังจากเปลี่ยนกระจกหน้ารถ กระจกหน้ารถเป็นที่ตั้งของกล้องและเซ็นเซอร์หลายตัว การเปลี่ยนกระจกหน้ารถอาจทำให้ตำแหน่งของอุปกรณ์เหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป 3. หลังจากเปลี่ยนล้อ ยาง หรือยกสูงรถ การเปลี่ยนขนาดของยาง หรือขนาดล้อ หรือการยกสูงรถจะจะทำให้ความสูงของตัวรถเปลี่ยนแปลงไปจากมาตรฐาน มุมตรวจจับของเซ็นเซอร์จึงผิดเพี้ยนไป ทำให้ระบบ ADAS ตรวจจับระยะห่างระหว่างวัตถุกับตัวรถไม่ถูกต้อง 4. หลังจากซ่อมแซมช่วงล่าง การซ่อมแซมส่วนประกอบของช่วงล่าง เช่น การตั้งศูนย์ล้อ อาจส่งผลต่อตำแหน่งของตัวรถและเซ็นเซอร์ 5. เมื่อมีสัญญาณเตือน หากมีไฟเตือนของระบบ ADAS สว่างขึ้น หรือระบบทำงานผิดปกติ เช่น ระบบเตือนการชนทำงานบ่อยเกินไป หรือระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางทำงานไม่เสถียร ควรนำรถเข้าตรวจสอบและปรับเทียบระบบ ADAS 6. ตามที่ผู้ผลิตแนะนำในสมุดคู่มือประจำรถ ผู้ผลิตแต่ละรายจะมีคำแนะนำระบุไว้ในสมุดคู่มือเกี่ยวกับระยะเวลาและเหตุผลในการปรับเทียบระบบ ADAS ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นของรถยนต์ ปรับเทียบระบบ ADAS แล้วได้อะไร ? 1. เพื่อมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อขับขี่ การปรับเทียบจะช่วยให้ระบบ ADAS ทำงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ 2. เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ระบบต่างๆ จะทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ช่วยแบ่งเบาภาระในการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น 3. เพื่อยืดอายุการใช้งาน การปรับเทียบเป็นการดูแลรักษาระบบ ADAS ให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบ และช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น ระบบ ADAS หรือ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เป็นเทคโนโลยีที่อาศัยเซ็นเซอร์และกล้องในการทำงาน เพื่อช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น แต่เพื่อให้ระบบเหล่านี้ทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องมีการ ปรับเทียบ ( Re-calibrate ) เป็นประจำเพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สอบถามรายละเอียด สอบถามรายละเอียด Share Facebook Twitter Email LINE