NCAP คืออะไร?
ทำไมถึงสำคัญสำหรับผู้ใช้รถยนต์ยุคใหม่
NCAP ย่อมาจาก New Car Assessment Program หรือ โครงการประเมินรถยนต์ใหม่ เป็นโครงการที่ทำหน้าที่ทดสอบและประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ยุคใหม่ โดยจะทำการทดสอบในหลายด้าน เช่น การชน การป้องกันผู้โดยสาร การป้องกันคนเดินเท้า และระบบความปลอดภัยอื่นๆ ผลการทดสอบจะถูกนำมาจัดอันดับเป็นดาว โดยดาวที่ได้มากเท่าไหร่ก็แสดงให้เห็นว่ารถยนต์คันนั้นมีความปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
ทำไม NCAP ถึงสำคัญต่อรถยนต์ยุคใหม่?
– มาตรฐานความปลอดภัย NCAP เป็นเหมือนมาตรฐานสากลที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบระดับความปลอดภัยของรถยนต์แต่ละรุ่นได้
– การตัดสินใจซื้อ ผลการทดสอบ NCAP เป็นปัจจัยสำคัญด้านความปลอดภัยที่ผู้บริโภคหลายคนนำมาพิจารณาในการตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่
– แรงกดดันต่อผู้ผลิตรถยนต์ยุคใหม่ ผลการทดสอบ NCAP ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยมากขึ้น และพยายามพัฒนารถยนต์ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
NCAP เกี่ยวข้องกับประเทศไทยอย่างไร ?
ถึงแม้ NCAP เป็นมาตรฐานแต่ไม่ได้บังคับให้รถยนต์ยุคใหม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม แต่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของอาเซียน ASEAN NCAP จึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ในประเทศไทย โดยผลการทดสอบของ ASEAN NCAP จะถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการประชาสัมพันธ์และการตลาดของรถยนต์แต่ละรุ่น
ความสำคัญของ NCAP ต่อประเทศไทย
– ส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน ผลการทดสอบ NCAP ทำให้สามารถเปรียบเทียบระดับความปลอดภัยของรถยนต์แต่ละรุ่นได้อย่างง่ายดาย และเลือกซื้อรถยนต์ที่มอบความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
– กระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์พัฒนารถยนต์ยุคใหม่ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อให้รถยนต์ได้รับคะแนน NCAP ที่สูง ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องพัฒนาระบบความปลอดภัยต่างๆ ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ขับขี่
– สร้างความเชื่อมั่น เมื่อรถยนต์รุ่นใดได้รับคะแนน NCAP สูง ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ขับขี่ว่ารถยนต์คันนั้นมีความปลอดภัยสูง และคุ้มค่ากับการลงทุน
– สอดคล้องกับมาตรฐานสากล การนำมาตรฐาน NCAP มาใช้ในประเทศไทย ทำให้มาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ในประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐานสากล และสามารถแข่งขันกับรถยนต์ยุคใหม่จากประเทศอื่นๆ ได้
ตัวอย่างการทดสอบความปลอดภัยของ ASEAN NCAP
– ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Automatic Emergency Braking) ทดสอบประสิทธิภาพในการช่วยลดความรุนแรงของการชน หรือป้องกันการชนเมื่อตรวจพบวัตถุกีดขวาง
– ระบบเตือนการชน ( Forward Collision Warning ) ทดสอบความสามารถในการเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีวัตถุกีดขวางอยู่ข้างหน้า
– ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน ( Lane Keep Assist ) ทดสอบความสามารถในการช่วยให้รถอยู่ในเลนเพื่อป้องกันการเฉี่ยวชน
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ( Adaptive Cruise Control ) ทดสอบความแม่นยำในการรักษาความเร็วที่ตั้งไว้และปรับความเร็วอัตโนมัติเมื่อมีวัตถุอยู่ด้านหน้ารถยนต์
โดยจะสังเกตได้ว่าตัวอย่างการทดสอบของ ASEAN NCAP จะมีความเกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติฉุกเฉิน ซึ่งการทำงานของระบบอัตโนมัติเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับระบบ ADAS ( อ่านเพิ่มเติม คลิก !! ) โดยมีเหตุผลดังนี้
1. ลดอุบัติเหตุ ระบบ ADAS สามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่
2. เพิ่มความปลอดภัย ระบบ ADAS ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น และช่วยปกป้องผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคนเดินเท้า
3. ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค: ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีความปลอดภัยมากขึ้น และต้องการรถยนต์ที่มีระบบ ADAS ติดตั้งมา
4. สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย: ระบบ ADAS เป็นเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และ ASEAN NCAP ต้องปรับปรุงมาตรฐานการทดสอบให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ
ดังนั้น จะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนกว่าระบบ ADAS มีความเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขับขี่ แต่การบำรุงรักษาระบบ ADAS ด้วยการปรับเทียบ ( Re-Calibrate ) เพื่อให้การทำงานของระบบอัตโนมัติและระบบฉุกเฉินยังสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพอยู่ เพราะความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
