ADAS คือ ระบบความปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่รถยนต์

       จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุตลอดทั้งปี มีผู้สูญเสียทั้งทรัพย์สิน และชีวิตจากการขับขี่บนท้องถนน ซึ่งบางรายเกิดจากความเมื่อยล้า อ่อนเพลียทำให้เกิดอาการง่วงซึม ขับรถขณะ หรือบางร้ายมีอาการมึนเมา และรวมถึงการใช้โทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสารขณะขับขี่ และนี่คือเหตุผลที่ผู้ผลิตรถยนต์ได้พยายามพัฒนาระบบหรือเทคโนโลยีที่จะทำให้การขับขี่บนท้องถนนปลอดภัยเป็นเรื่องที่ต้องเน้นความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง

       รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์สมัยใหม่ในยุคปัจจุบัน ได้พัฒนาระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่เรียกว่า ADAS (เอ-ดาส) Advanced Driver – Assistance Systems (ADAS) เป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety) ที่ช่วยป้องกัน ลดความเสี่ยงขณะใช้งานรถ ทําให้การขับขี่บนท้องถนนมีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทําให้มั่นใจในการการขับขี่มากขึ้น

       ADAS แบ่งได้ 2 ระบบ คือ กลุ่มที่มีไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน และ กลุ่มที่มีไว้เพื่อความสะดวกสบายบนท้องถนน

       1. ระบบ ADAS เพื่อความปลอดภัย
            – ABS หรือ Anti-Lock Brake System (ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก) มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน
            – AFU (ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน) ระบบที่ช่วยผู้ขับขี่เบรกในกรณีฉุกเฉินด้วยกำลังสูงสุด สำหรับรถยนต์บางรุ่น สามารถเปิดไฟฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติ
            – ESP (ระบบควบคุมความเสถียรภาพการทรงตัวของรถ) โดยเฉพาะการเข้าโค้ง
            – FCW (ระบบตรวจจับสิ่งกีดขว้างด้านหน้า) เพื่อป้องกัน ช่วยเตือนให้ระวังการชน
            – LCA ( ระบบช่วยเตือนและช่วยการเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัย) เมื่อมีรถคันอื่นหรือสิ่งกีดขวางด้านข้าง จะมีไฟและสัญญาณเตือนผู้ขับขี่
            – ISA (ระบบช่วยลดกำลังเครื่องเมื่อตรวจพบว่าเกินขีดจำกัดความเร็ว) ระบบนี้จะสามารถตรวจจับบริเวณเส้นทางและป้ายจำกัดความเร็วให้ผู้ขับขี่ได้จากระยะไกล
            – DAW (ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่) โดยการจับภาพใบหน้าของผู้ขับขี่และตรวจจับอาการง่วงนอนได้ ป้องกันการหลับในได้เป็นอย่างดี ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนให้และกระตุ้นให้ผู้ขับขี่หยุดพัก
            – DST (ระบบควบคุมพวงมาลัยไดนามิค) ระบบจะช่วยควบคุมเสถียรภาพรถยนต์เมื่อถนนขาดการยึดเกาะ ช่วยควบคุมพวงมาลัยได้ง่ายขึ้น ควบคุมรถได้ดีขึ้น
            – NVS (ระบบช่วยการมองเห็นในตอนกลางคืน) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดีขึ้นให้ผู้ขับขี่ในช่วงกลางคืนด้วยการแสงไฟที่สว่างกว่าเดิม เซ็นเซอร์อินฟราเรดที่จะระบุการนำทางบนหน้าจอรถยนต์

       2. ระบบ ADAS เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
            – Start & Stop (ระบบช่วยประหยัดเงินและน้ำมันรถยนต์)  หรือ รถยนต์ไฮบริด ที่เคยได้ยินนั่นเอง ระบบจะดับเครื่องเมื่อรถจอด และจะสตาร์ทเครื่องเมื่อเหยียบคันเร่งและเคลื่อนตัว
            – Hill start assist (HSA) (ระบบช่วยในการออกตัวบนทางลาดชัน) ระบบนี้จะช่วยให้รถออกตัวได้ดีและป้องกันไม่ให้รถถอยหลังหากต้องขึ้นเขา
            – Back camera (กล้องถอยหลัง) ช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถถอยหลังและจอดรถได้อย่างสะดวกสบายและแม่นยำมากขึ้น
            – Parking space detection system (ระบบตรวจจับจุดจอดรถ) ระบบจะช่วยค้นหาพื้นว่างและแจ้งพื้นที่จอดรถว่ามีว่างเพียงพอกับผู้ขับขี่หรือไม่

        เครื่องมือทั้งหมดนี้คือเทคโนโลยีใหม่ที่ผู้ผลิตต่างพัฒนาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถยนต์สะดวกสบายปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีความเสียงในเรื่องของระบบ หากเกิดความบกพร่อง ซึ่งเทคโนโลยีที่จะช่วยปรับเทียบและเซ็ตระบบนี้ให้กลับมาปกตินั่นก็คือ ระบบ ADAS นั่นเอง